"กษัตริย์องค์ต่างๆของพระคัมภีร์ไบเบิล"
- Suvarnabhumi Baptist
- 17 มิ.ย. 2562
- ยาว 1 นาที
บทเรียนจากเมื่อวันอาทิตย์ 9/6/2019
"กษัตริย์องค์ต่างๆของพระคัมภีร์ไบเบิล"
บทเรียนที่ 5
เยโรโบอัม กษัตริย์พระองค์แรกของราชอาณาจักรฝ่ายเหนือ
เป้าหมาย: เพื่อสอนนักเรียนของข้าพเจ้าถึงด้านดีและด้านเสียของเยโรโบอัม
เข้าเรื่อง: เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกเราได้เรียนเรื่องของกษัตริย์เรโบอัมผู้ล้มเหลว ที่ทรงล้มเหลวเพราะไปฟังที่ปรึกษาที่ผิดแทนที่จะฟังที่ปรึกษาที่มีสติปัญญา และพระองค์ล้มเหลวเพราะไม่ได้แสดงความรัก ความโอบอ้อมอารีต่อเหล่าประชาราษฎร ราชอาณาจักรอิสราเอลจึงแตกแยกเป็นสอง คือฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ เช่นเดียวกัน พวกเราก็ควรมีที่ปรึกษาที่ดีในชีวิตและควรฟังที่ปรึกษาที่ถูกต้องตามหลักการของพระคัมภีร์ไบเบิล อย่าไปฟังคำแนะนำของคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า หรือคนรอดแล้วแต่มีชีวิตอย่างชาวโลก ยิ่งกว่านั้น พวกเราควรจะแสดงความรักต่อผู้คนที่อยู่รอบข้างเรา หากชีวิตของเราเป็น“อาณาจักรแห่งความรัก ความโอบอ้อมอารี” ผู้คนก็จะรักเราและเราจะมีเพื่อนฝูงเยอะแยะ ให้เราแสดงความใจดี ไม่ใช่ความโหดเหี้ยมเหมือนเรโหโบอัม ต่อผู้คนรอบข้างเรา นี่คือข้อคิดจากบทเรียนที่แล้ว
พวกเรายังคงจำได้เรื่องผ้าคลุมของผู้พยากรณ์อาหิยาห์ที่ฉีกแบ่งเป็นสิบสองชิ้น สิบชิ้นมอบให้กับเยโรโบอัม และสองชิ้นให้กับเรโหโบอัม เป็นคำพยากรณ์ว่า วันหนึ่งเยโรโบอัมจะครองอิสราเอลสิบตระกูล
บทนำ: เยโรโบอัมได้เป็นกษัตริย์ของราชอาณาจักรเหนือคือสิบตระกูล ส่วนลูกชายของซาโลมอนก็ยังคงเป็นกษัตริย์ของราชอาณาจักรฝ่ายใต้ที่เหลืออยู่เพียงสองตระกูล คือตระกูลยูดาห์กับเบนยามิน ตอนนี้เราจะพูดถึงเยโรโบอัมกันแล้ว
I. ด้านดีของเยโรโบอัม
1. เยโรโบอัมได้ดีแม้ว่าเขาเองไม่มีพ่อ พ่อของเยโรโบอัมชื่อว่า เนบัท เคยรับราชการภายใต้กษัตริย์ซาโลมอน แต่เมื่อนางเศรุวาห์แม่ของเยโรโบอัมให้กำเนิดเยโรโบอัม นางก็เป็นหม้ายเสียแล้ว (1 พงศ์กษัตริย์ 11:26) การที่เยโรโบอัมได้ดีนั้นมีส่วนอย่างมากจากการมีคุณแม่ที่ดี ให้พวกเราหนุนใจและอธิษฐานเผื่อคุณแม่ทั้งหลายที่ต้องเลี้ยงลูกๆด้วยตัวคนเดียว และแนะนำพวกเธอให้นำลูกๆมาในคริสตจักรที่เด็กๆจะได้มีโอกาสเห็นตัวอย่างของบุรุษที่ดีและเป็นอย่างพระเจ้า ข้อนี้สำคัญเพราะเด็กๆที่ไม่มีพ่อมักจะขาดอิทธิพลที่ดีที่พ่อควรจะมีให้ลูกๆ ดังนั้นการให้ลูกๆโดยเฉพาะลูกชายมาอยู่ใกล้คนของพระเจ้าจะช่วยเขาเห็นและเรียนรู้ว่า ผู้ชายที่ดีเป็นอย่างไรเพื่อเป็นตัวอย่างแก่พวกเขา สถาบันครอบครัวสำคัญมากและพระเจ้าทรงประทานลูกๆแก่ครอบครัวเพื่อให้เด็กๆรับอิทธิพลที่ดีจากทั้งพ่อและแม่ เพราะจำเป็นทั้งคู่ ให้เราอธิษฐานเผื่อทุกครอบครัวในคริสตจักรเรา
2. เยโรโบอัมขยัน ขณะยังเป็นหนุ่ม เขาได้แสดงออกถึงการทำงานและความสามารถ จนขนาดกษัตริย์ซาโลมอนได้แต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ดูแลงานที่สำคัญมากๆ (1 พงศ์กษัตริย์ 11:27, 28) การทำงานเป็นสิ่งที่ดีและไม่ว่าจะเป็นงานใด อาชีพใด ตำแหน่งใด เราควรทำให้ดีที่สุด
3. เยโรโบอัมได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้าให้มาทำงานเฉพาะ วันหนึ่งขณะที่กำลังเดินอยู่นอกเมืองเยรูซาเล็ม เยโรโบอัมได้พบกับผู้พยากรณ์ชื่ออาหิยาห์ อาหิยาห์กำลังใส่เสื้อคลุมใหม่และท่านได้หยิบเสื้อคลุมนั้นออกมาฉีกเป็นสิบสองชิ้น สิบชิ้นมอบให้เยโรโบอัม เป็นสัญญาณว่า ท่านจะเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลสิบตระกูล ข้อนี้แสดงให้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงเรียกให้บางคนมาทำงานเฉพาะ ให้เราหนุนใจคนหนุ่มคนสาว และทั้งคนมีอายุด้วยว่า หากพระเจ้าทรงเรียกให้เรามาทำบางอย่าง ให้เราถวายตัวต่อพระองค์ และบอกให้คริสตจักรของเราทราบ จะได้มีการอธิษฐานเผื่อและเป็นที่หนุนใจต่อทุกๆคน งานเฉพาะนั้นอาจจะเป็นครูสอนเด็กๆในคริสตจักร เป็นครูโรงเรียนวันอาทิตย์ เป็นมิชชั่นนารีย์ในประเทศ หรือต่างประเทศ หรือเป็นศิษยาภิบาล เป็นผู้เปิดคริสตจักร
4. เยโรโบอัมเป็นห่วงผู้อื่น เมื่อซาโลมอนได้ยินว่า เยโรโบอัมจะได้เป็นกษัตริย์ของสิบตระกูล ซาโลมอนก็แสวงที่จะฆ่าเยโรโบอัมเสีย แต่เยโรโบอัมได้หลบหนีไปยังประเทศอียิปต์และได้รับการคุ้มครองโดยชิชักกษัตริย์ของอียิปต์
(1 พงศ์กษัตริย์ 11:29-40) เมื่อทราบว่า ซาโลมอนสิ้นพระชนม์แล้ว และอิสราเอลทั้งสิบตระกูลมารวมตัวกันที่เมืองเชเคมเพื่อแต่งตั้งเรโหโบอัมราชโอรสของซาโลมอนให้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป เมื่อทราบดังนี้ เยโรโบอัมก็เดินทางกลับมาอิสราเอลเพื่อเข้าร่วมที่ชุมนุมครั้งนั้นด้วย ที่นั่น เยโรโบอัมได้ทำหน้าที่เป็นผู้พูดแทนประชาชน ไปขอร้องให้กษัตริย์เรโหโบอัมลดหย่อนภาษีที่สูงเกิน และขอให้ผ่อนเบาภาระของประชาชน เราเห็นว่า เยโรโบอัมยอมที่จะเอาตัวเองเข้าไปในที่ๆอันตรายเพื่อผู้อื่น ชีวิตที่มีความสุขคือชีวิตที่อยู่เพื่อผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น ทำเพื่อผู้อื่น ความเห็นแก่ตัวไม่เคยทำให้ใครมีความสุข
5. เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ คนอิสราเอลสิบตระกูลกบฎต่อกษัตริย์เรโหโบอัมเพราะพระองค์ไม่ยอมฟังคำปรึกษาของเหล่าผู้อาวุโสที่ให้ผ่อนเบาภาษีสูง ประชาชนสิบตระกูลเลยตั้งให้เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์เหนือพวกเขา เมื่อเป็นกษัตริย์แล้ว ผู้พยากรณ์อาหิยาห์ก็ได้แนะนำว่า ให้เยโรโบอัมซื่อตรงต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะถ้าทำเช่นนั้น ราชอาณาจักรจะเป็นของพระองค์และครอบครัวสืบไป (1 พงศ์กษัตริย์ 11:37, 38) พวกเราก็ได้เห็นแล้วว่า เยโรโบอัมเริ่มต้นมาด้วยดี ในเมื่อพระองค์ทรงเริ่มต้นด้วยดี แสดงว่า พระองค์จะเป็นกษัตริย์ที่ดีแน่ๆเลยใช่ไหม? ดูต่อไป
II. ด้านเสียของเยโรโบอัม
1. เยโรโบอัมให้ความสำเร็จทำลายพระองค์แทนที่จะเสริมสร้าง (1 พงศ์กษัตริย์ 12:25-30) คือความสำเร็จทำลายพระองค์ แทนที่จะช่วยพระองค์ เพราะหลังจากที่เป็นกษัตริย์แล้ว แทนที่เยโรโบอัมจะวางใจในพระเจ้าที่ได้ตั้งพระองค์เป็นกษัตริย์ แต่เพราะด้วยความกลัวว่า ประชาชนจะกลับไปหาเรโหโบอัม เพราะพระวิหารอยู่ที่เยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นพื้นที่ของยูดาห์ เยโรโบอัมจึงสร้างที่นมัสการรูปเคารพขึ้นมาแห่งคือที่เมืองดานในทิศเหนือกับเมืองเบธเอลในทิศใต้เพื่อหวังให้ผู้คนมีที่นมัสการแทนที่จะกลับไปที่ยูดาห์ แต่อย่างที่พวกเราจำได้ พระเจ้าเคยตรัสทางผู้พยากรณ์อาหิยาห์ว่า ถ้าเยโรโบอัมซื่อตรงต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ราชอาณาจักรก็จะเป็นของพระองค์สืบไป น่าเสียดายที่ไม่เป็นเช่นนั้น มีคนเคยกล่าวไว้ว่า “มีอยู่สองสิ่งที่จะทดสอบคน อันหนึ่งคือความล้มเหลว อีกอันหนึ่งคือความสำเร็จ” หลายคนสะดุดเพราะความสำเร็จมากกว่าความล้มเหลว
2. เยโรโบอัมเป็นผู้ตามที่ดี แต่ไม่ผู้นำที่ดี เป็นลูกน้องที่ดี แต่เป็นหัวหน้าที่ไม่ดี มีหลายคนที่สามารถทำงานใหญ่เพื่อพระเจ้าได้หากว่าพวกเขายอมที่จะเป็นที่สอง แต่เพราะพวกเขาอยากจะเป็น“เบอร์หนึ่ง” ดังนั้น พวกเขาจึงกลายเป็นเหมือนกับปลาตัวใหญ่ในน้ำบ่อน้อย แทนที่จะเป็นปลาตัวเล็กในน้ำบ่อใหญ่ คือสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ เพราะมัวแต่แสวงหาตำแหน่งและหน้าตา
3. เยโรโบอัมปฎิเสธคำปรึกษาของศิษยาภิบาลของตน ในหลายๆทาง อาหิยาห์เป็นศิษยาภิบาลของเยโรโบอัม และท่านได้ให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาแก่เยโรโบอัม และตราบใดที่เยโรโบอัมทำตามคำแนะนำ ทุกสิ่งก็เป็นไปด้วยดี แต่เมื่อเยโรโบอัมหันหลังให้กับคำแนะนำของคนของพระเจ้า พระองค์ก็ผิดพลาดล้มเหลว
4. เยโรโบอัมทำผิดในเรื่องการนมัสการสิ่งที่ผิด คือพระองค์ตั้งรูปปั้นขึ้นแล้วกราบไหว้บูชา อย่างที่เราได้อ่านไปแล้วว่า พระองค์ได้ตั้งรูปปั้นวัวทองคำขึ้นในสองสถานที่เพื่อให้ผู้คนมานมัสการ อย่างที่เราเห็นในเรื่องนี้ เมื่อใดที่คนทิ้งผู้พยากรณ์ที่แท้จริงของพระเจ้าไป พวกเขาจะหาอย่างอื่นมาแทนที่ เยโรโบอัมสร้างศาสนาของตนเองขึ้นมา ซึ่งไม่มีใครมีสิทธิที่จะทำเช่นนั้น เยโรโบอัมถึงขั้นให้ประชาชนนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าภายใต้รูปปั้นวัวทองคำ เยโรโบอัมยังได้แต่งตั้งคนอิสราเอลซึ่งไม่ใช่คนจากตระกูลเลวีมาเป็นปุโรหิตอีกด้วย ซึ่งเป็นการทำผิดพระราชบัญญัติของโมเสส พระองค์เป็นผู้นำในการนมัสการรูปเคารพ เมื่อผู้คนทิ้งพระประสงค์ของพระเจ้าและทิ้งผู้พยากรณ์ของพระเจ้าไป พวกเขาก็ต้องการบางอย่างเพื่อมาปลอบจิตสำนึกผิดของตนเอง สรุปแล้ว ศาสนาผิดๆทั้งหลายเกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ปฏิเสธที่จะเชื่อฟังพระราชบัญญัติในพระคัมภีร์ไบเบิล แต่มนุษย์ไม่อยากรู้สึกผิดจึงหาทางแก้โดยการตั้งกฎเกณฑ์ข้อห้ามต่างๆขึ้นมา ตั้งความคิดเกี่ยวกับพระเจ้าในแบบของตนเองขึ้นมา และผลลัพธ์ก็คือเขากลายเป็นผู้ไหว้รูปเคารพ
III. ผลลัพธ์ที่น่าเศร้า 1. เยโรโบอัมนำอิสราเอลสู่ความบาป ดู 1 พงศ์กษัตริย์ 15:26-34 และสังเกตุที่พระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับนาดับ บุตรชายของเยโรโบอัม เวลาทำบาป ไม่มีใครทำคนเดียว เพราะพวกเราแต่ละคนส่งผลกระทบต่อผู้อื่น 2. เยโรโบอัมทำให้อิสราเอลลำบาก ดู 2 พงศ์กษัตริย์ 17:16-18 การที่เยโรโบอัมนำอิสราเอลให้ไหว้รูปเคารพเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ทั้งสิบตระกูลที่ติดตามพระองค์ถถูกจับไปเป็นเชลยในประเทศอัสซีเรีย ทั้งประเทศต้องลำบากเพราะบาปของพระองค์ เช่นเดียวกัน ความบาปของเราเองจะทำให้ผู้คนรอบๆข้างเราพลอยลำบากไปด้วย เช่น คนที่ไปกินเหล้าเมาแล้วมาขับรถ อาจจะชนและคร่าชีวิตผู้อื่นพ่อที่เมาเหล้าอาจทุบตีครอบครัว คนที่ผิดประเวณีก็ทำให้ครอบครัวแตกแยก เป็นต้น 3. เยโรโบอัมดื้อรั้น อ่าน 1 พงศ์กษัตริย์ 13 จนกระทั้งวันที่สิ้นพระชนม์ พระองค์ก็ยังไม่กลับใจจากความผิดบาป พระองค์ไม่ยอมรับในความผิดของตน 4. อีกเรื่องที่น่าเศร้าคือเยโรโบอัมมีบุตรชายที่ต้องเสียชีวิตขณะยังเป็นทารกอยู่ ดู 1 พงศ์กษัตริย์ 14:17 5. เรื่องเศร้าอีกเรื่องคือนาดับ บุตรชายของพระองค์สืบราชบัลลงค์ต่อจากพระองค์ ดู 1 พงศ์กษัตริย์ 14:20 นาดับเป็นกษัตริย์ผู้ชั่วร้ายเหมือนกับบิดา
#คริสตจักรแบ๊พติสสุวรรณภูมิ

Comments